วันศุกร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2558

ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์



1.ประโยชน์ด้านการศึกษา ใช้เพื่องานด้านการเรียนการสอนในหลายรูปแบบ เช่นการ
นำบทเรียน การผลิตสื่อการสอน การใช้ซีดีรอมสำหรับการเรียนรู้ เกมเพื่อการศึกษาหรือ
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
2.ด้านความบันเทิง เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อความสนุกสนานบันเทิง เช่น เล่นเกม
ฟังเพลงชมภาพยนต์
3.ด้านการเงิน การธนาคาร ใช้ในการเบิก - ถอนเงินผ่านเครื่อง ATM การโอนเงินด้วย
ระบบด้วยอัตโนมัติโดยโอนเงินจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยผ่านระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ การดูข้อมูลตลาดหุ้นการทำกราฟแสดงยอดขาย
4.ด้านการสื่อสารและคมนาคม ใช้ในการติดต่อสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต สื่อสาร
ถ่ายทอดผ่านดาวเทียมการติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์ การคมนาคมทางเรือ เครื่องบิน
และรถไฟฟ้า
5.ด้านศิลปะและการออกแบบ เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการวาดรูปการ์ตูนออกแบบ
งานและการสร้างภาพกราฟิกหรือการตกแต่งภาพในคอมพิวเตอร์
6.ด้านการแพทย์ ปัจจุบันมีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยงานด้านการแพทย์หลายด้าน
เช่น การเก็บประวัติคนไข้ การใช้ทดลองประกอบการวินิจฉันของแพทย์ใช้ในการตรวจ
เลือก ตรวจปัสสาวะ การผ่าตัดหัวใจการตรวจสอบห้องพักผู้ป่วยว่าว่างหรือไม่ การ
ควบคุมแสงเลเซอร์การเอ็กซ์เรย์ การตรวจคลื่อนสมองคลื่นหัวใจ เป็นต้น
7.ด้านวิทยาศาสตร์และเคมี ใช้ในการวิเคราะห์สูตรทางเคมีการคำนวณสูตรทาง
วิทยาศาสตร์การค้นคว้าทดลองในห้องวิทยาศาสตร์ การคำนวณเกี่ยวกับระบบสุริยะ

จักรวาลและการเกิดปรากฏการณ์เกี่ยวกับดวงดาวต่างๆ
ประเภทของคอมพิวเตอร์




ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ได้ใช้วงจรเบ็ดเสร็จขนาดใหญ่มาก (very large scale integrated circuit) ซึ่งสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได้มากกว่าสิบล้านตัว เราสามารถแบ่งคอมพิวเตอร์ในรุ่นปัจจุบันออกเป็น 4 ประเภทดังต่อไปนี้

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer)

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วมาก และมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ชนิดอื่น ๆ เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีราคาแพงมาก มีขนาดใหญ่ สามารถคำนวณทางคณิตศาสตร์ได้หลายแสนล้านครั้งต่อวินาที และได้รับการออกแบบ เพื่อให้ใช้แก้ปัญหาขนาดใหญ่มากทางวิทยาศาสตร์และทางวิศวกรรมศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน การศึกษาผลกระทบของมลพิษกับสภาวะแวดล้อมซึ่งหากใช้คอมพิวเตอร์ชนิดอื่นๆ แก้ไขปัญหาประเภทนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการคำนวณหลายปีกว่าจะเสร็จสิ้น ในขณะที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถแก้ไขปัญหาได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากการแก้ปัญหาใหญ่ ๆ จะต้องใช้หน่วยความจำสูง ดังนั้น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จึงมีหน่วยความจำที่ใหญ่มาก ซูเปอร์คอมพิวเตอร์มีหลายประเภท ตั้งแต่รุ่นที่มีหน่วยประมวลผล (processing unit) 1 หน่วย จนถึงรุ่นที่มีหน่วยประมวลผลหลายหมื่นหน่วยซึ่งสามารถทำงานหลายอย่างได้พร้อม ๆ กัน

เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (mainframe computer)

เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มีสมรรถภาพที่ต่ำกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาก แต่ยังมีความเร็วสูง และมีประสิทธิภาพสูงกว่ามินิคอมพิวเตอร์หรือไมโครคอมพิวเตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์สามารถให้บริการผู้ใช้จำนวนหลายร้อยคนพร้อม ๆ กัน ฉะนั้น จึงสามารถใช้โปรแกรมจำนวนนับร้อยแบบในเวลาเดียวกันได้ โดยเฉพาะถ้าต่อเครื่องเข้าเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถใช้ได้จากทั่วโลก ปัจจุบัน องค์กรใหญ่ๆ เช่น ธนาคาร จะใช้คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ในการทำบัญชีลูกค้า หรือการให้บริการจากเครื่องฝากและถอนเงินแบบอัตโนมัติ (automatic teller machine) เนื่องจากเครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ถูกใช้งานมากในการบริการผู้ใช้พร้อม ๆ กัน เมนเฟรมคอมพิวเตอร์จึงต้องมีหน่วยความจำที่ใหญ่มาก

มินิคอมพิวเตอร์ (minicomputer)

มินิคอมพิวเตอร์ คือ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ๆ ซึ่งสามารถบริการผู้ใช้งานได้หลายคนพร้อม ๆ กัน แต่จะไม่มีสมรรถภาพเพียงพอที่จะบริการผู้ใช้ในจำนวนที่เทียบเท่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ จึงทำให้มินิคอมพิวเตอร์เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลาง หรือสำหรับแผนกหนึ่งหรือสาขาหนึ่งขององค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น

ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) หรือ พีซี (personal computer หรือ PC)

ไมโครคอมพิวเตอร์ คือ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแบบขนาดตั้งโต๊ะ (desktop computer) หรือขนาดเล็กกว่านั้น เช่น ขนาดสมุดบันทึก (notebook computer) และขนาดฝ่ามือ (palmtop computer) ไมโครคอมพิวเตอร์ได้เริ่มมีขึ้นในปีพ.ศ. 2518 ถึงแม้ว่าในระยะหลัง เครื่องชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพที่สูง แต่เนื่องจากมีราคาไม่แพงและมีขนาดกะทัดรัด ไมโครคอมพิวเตอร์จึงยังเหมาะสำหรับใช้ส่วนตัว ไมโครคอมพิวเตอร์ได้ถูกออกแบบสำหรับใช้ที่บ้าน โรงเรียน และสำนักงานสำหรับที่บ้าน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการทำงบประมาณรายรับรายจ่ายของครอบครัวช่วยทำการบ้านของลูกๆ การค้นคว้าข้อมูลและข่าวสาร การสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronic mail หรือ E - mail) หรือโทรศัพท์ทางอินเทอร์เน็ต (internet phone) ในการติดต่อทั้งในและนอกประเทศ หรือแม้กระทั่งทางบันเทิง เช่น การเล่นเกมบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ สำหรับที่โรงเรียน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยสอนนักเรียนในการค้นคว้าข้อมูลจากทั่วโลกสำหรับที่สำนักงาน เราสามารถใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ในการช่วยพิมพ์จดหมายและข้อมูลอื่นๆ เก็บและค้นข้อมูล วิเคราะห์และทำนายยอดซื้อขายล่วงหน้า

โน้ตบุ๊ค (notebook or laptop)

โน้ตบุ๊ค คือ คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ ถูกออกแบบไว้เพื่อนำติดตัวไปใช้ตามที่ต่างๆ มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา ในปัจจุบันมีขนาดพอๆกับสมุดที่ทำด้วยกระดาษ

เน็ตบุ๊ค (netbook or laptop)

เน็ตบุ๊ค คือ คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าไมโครคอมพิวเตอร์และเล็กกว่าโน้ตบุ๊ค ถูกออกแบบไว้เพื่อนำติดตัวไปใช้ตามที่ต่างๆ มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา

อัลตร้าบุ๊ค (Ultrabook)

อัลตร้าบุ๊ค คือ คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าไมโครคอมพิวเตอร์และมีขนาดเท่ากับโน้ตบุ๊ค ถูกออกแบบไว้เพื่อนำติดตัวไปใช้ตามที่ต่างๆ และน้ำหนักเบากว่าโน้ตบุ๊ค และเน้นความสวยงาม ทันสมัย แปลกใหม่

แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ (tablet computer)

แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แท็บเล็ต คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ในขณะเคลื่อนที่ได้ ขนาดกลางและใช้หน้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับแรก มีคีย์บอร์ดเสมือนจริงหรือปากกาดิจิตอลในการใช้งานแทนที่แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด และมีความหมายครอบคลุมถึงโน๊คบุ๊คแบบ convertible ที่มีหน้าจอแบบสัมผัสและมีแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดติดมาด้วยไม่ว่าจะเป็นแบบหมุนหรือแบบสไลด์ก็ตาม 




คอมพิวเตอร์


คอมพิวเตอร์ (อังกฤษ: computer) หรือในภาษาไทยว่า คณิตกรณ์[2][3] เป็นเครื่องจักรแบบสั่งการได้ที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการกับลำดับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ โดยอนุกรมนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อพร้อม ส่งผลให้คอมพิวเตอร์สามารถแก้ปัญหาได้มากมาย
คอมพิวเตอร์ถูกประดิษฐ์ออกมาให้ประกอบไปด้วยความจำรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล อย่างน้อยหนึ่งส่วนที่มีหน้าที่ดำเนินการคำนวณเกี่ยวกับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์ และตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ และส่วนควบคุมที่ใช้เปลี่ยนแปลงลำดับของตัวดำเนินการโดยยึดสารสนเทศที่ถูกเก็บไว้เป็นหลัก อุปกรณ์เหล่านี้จะยอมให้นำเข้าข้อมูลจากแหล่งภายนอก และส่งผลจากการคำนวณตัวดำเนินการออกไป
หน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์มีหน้าที่ดำเนินการกับคำสั่งต่างๆ ที่คอยสั่งให้อ่าน ประมวล และเก็บข้อมูลไว้ คำสั่งต่างๆ ที่มีเงื่อนไขจะแปลงชุดคำสั่งให้ระบบและสิ่งแวดล้อมรอบๆ เป็นฟังก์ชันที่สถานะปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกถูกพัฒนาขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1940 – ค.ศ. 1945) แรกเริ่มนั้น คอมพิวเตอร์มีขนาดเท่ากับห้องขนาดใหญ่ ซึ่งใช้พลังงานมากเท่ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) สมัยใหม่หลายร้อยเครื่องรวมกัน[4]
คอมพิวเตอร์ในสมัยใหม่นี้ผลิตขึ้นโดยใช้วงจรรวม หรือวงจรไอซี (Integrated circuit)โดยมีความจุมากกว่าสมัยก่อนล้านถึงพันล้านเท่า และขนาดของตัวเครื่องใช้พื้นที่เพียงเศษส่วนเล็กน้อยเท่านั้น คอมพิวเตอร์อย่างง่ายมีขนาดเล็กพอที่จะถูกบรรจุไว้ในอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์มือถือนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดเล็ก และหากจะมีคนพูดถึงคำว่า "คอมพิวเตอร์" มักจะหมายถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของยุคสารสนเทศ อย่างไรก็ดี ยังมีคอมพิวเตอร์ชนิดฝังอีกมากมายที่พบได้ตั้งแต่ในเครื่องเล่นเอ็มพีสามจนถึงเครื่องบินบังคับ และของเล่นชนิดต่างๆ จนถึงหุ่นยนต์อุตสาหกรรม
มินเนี่ยน







ชื่ออังกฤษ : Minions (2015), Despicable Me 3 
ชื่อไทย : มินเนียน, มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด 3
ประเภท : Animation, Comedy, Family, HD, Master, Zoom
ประเภท : 09/07/2015
ผู้กำกับ : ปิแอร์ คอฟฟิน
นักแสดง : Chris Renaud, Pierre Coffin, Sandra Bullock
เรื่องย่อ
Minions (2015) มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด ภาค 3 HD มีเนี่ยน หัวเหลืองจอมป่วน!!! รอกันข้ามปีกันเลยทีเดียวกับ อนิเมชั่นเรื่องMinions. เป็นแอนิเมชั่นภาคแยกของ Drspicable Me โดยเป็นเรื่องราวของเหล่าตัวประหลาดสีเหลือง Minions Gru is recruited by an organization to stop Scarlet Overkill, a super-villain who, alongside her inventor husband Herb, hatches a plot to take over the world.ดูหนังออนไลน์ Minions (2015) มินเนียน มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด ภาค 3 HD Master รองรับ IOS IPhone IPad Android Windows phone 





แม่มดสาวหัวใจกุ๊กกิ๊ก 

เนื้อเรื่อง
อกโกล่า แม่มดผู้จอมแก่น และ วานิลา แม่มดผู้อ่อนโยน ซึ่งทั้ง2มาจากโลกแม่มด ได้ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อปฏิบัติภารกิจ นั่นคือการเก็บหัวใจจากมนุษย์ โดยทั้ง 2 ต้องแข่งขันกันเพื่อครอบครองตำแหน่งราชินีแห่งโลกเวทมนตร์ ในระหว่างการแข่งขันทั้ง 2 คนต่างได้เรียนประสบการณ์จากโลกมนุษย์ทั้งด้านดีและด้านร้าย[1] และสิ่งที่เหนือกว่าการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งราชินี นั่นคือ มิตรภาพและน้ำใจ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ความฝันของพวกเธอเป็นจริงได้หรือไม่

ตัวละคร




คาโตะ ช็อกโกล่า (加藤 ショコラ) / ช็อกโกล่า เมเยอร์ (Chocola Meilleure)
เกิด: 13 สิงหาคม
สูง: 150 ซม.
ช็อกโกล่าเป็นเด็กหญิงที่นิสัยร่าเริง รักสนุก และชอบใช้กำลัง มีคำพูดติดปากที่ฟังแล้วชวนสะดุ้งคือ "จะชกให้กระเด็นเลย!"เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น เธอเป็นขวัญใจของเด็กผู้ชายทุกคนในโลกเวทมนตร์ มีความพยายามที่จะเก็บหัวใจแต่ก็ไม่ค่อยสำเร็จนัก เรียกได้ว่า แพ้วนิลาเป็นประจำ แต่สุดท้ายช็อกโกล่าก็ได้เป็นพระราชินี (แต่ในมังงะ ไม่ได้เป็นพระราชินีเพราะต้องฟอกใจให้กลาส) และรักกับปิแอร์อย่างมีความสุข และ เป็น พระราชินีของโอกูล ไปตลอดการ (ในอะนิเมะ ช็อกโกล่า จะมีชุดแม่มดสีชมพู) เธอมีความชอบบางอย่างที่ไม่ค่อยจะเหมือนใคร คือ ชอบเล่นไล่จับคน และของกินที่ชอบ คือ ช็อคโกแล็ต และลูกอมกระดูก



ไอสึ วานิลลา(วานิลา) (愛須 バニラ) / วานิลา มิลซ์ (Vanilla Mieux)
เกิด: 13 มีนาคม
สูง: 146 ซม.
เพื่อนสนิทของช็อกโกล่า เป็นลูกของควีนแคนดี้ มีนิสัยขี้อาย หัวอ่อน ขี้อิจฉา ไม่ค่อยมีเพื่อน และใจดี เก็บหัวใจได้อย่างมากมายเพราะหน้าตาที่น่ารัก มีช่วงเวลาที่ทะเลาะกันเพราะปีแอร์เป่าหูจึงเป็นเจ้าหญิงแห่งโอกูล แต่สุดท้ายก็ดีกัน วานิลาได้เป็นพระราชินีแต่เสียสละให้ช็อกโกล่าเพราะอยากเปิดร้านเค้กในโลกเวทมนตร์ (ในมังงะ วนิลาได้เป็นพระราชินี) (ในอะนิเมะ วนิลา จะมีชุดสีม่วง)


ดุ๊ค (Duke)/พอลวาวูล
เกิด: 26 มีนาคม (30 ปี เทียบกับมนุษย์)
ส่วนสูง: เท่ากล่องบุหรี่
สัตว์เลี้ยงเวทมนตร์ของช็อกโกล่า เป็นกบ (เดิมทีแล้วดุ๊ค เป็นพ่อมด แต่ร่ายคาถาผิด จึงถูกกลายเป็นกบ) และยังเป็นน้องชายของซินนาม่อนและน้าของช็อกโกล่า มีนิสัยชอบแอบหนีเที่ยว หลงตัวเองในบางครั้ง แต่บางครั้งก็ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ช็อกโกล่าได้เหมือนกันคำที่พูดบางตอนเช่น เรื่องเล็กๆเคโระไม่เรื่องใหญ่ๆเคโระทำ

แบลงก้า (Blanca)/ ริวบี้
เกิด: 4 กันยายน
สูง: 8.5 ซม.
สัตว์เลี้ยงเวทมนตร์ของวานิลา เป็นหนู (เป็นแม่มดเช่นเดียวกับดุ๊ค เพราะมีความรักให้มนุษย์ จึงต้องอยู่ในร่างหนู เป็นเวลา 100 ปี) มีนิสัยเย่อหยิ่ง เจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ และมักจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้วานิลาได้เก็บหัวใจเป็นจำนวนมากๆ โดยบางครั้งมักจะไม่สนวิธีการที่จะใช้ว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนแค่ไหน แต่ก็มีความจงรักภักดีกับวานิลาเป็นที่สุด


ร็อกกิ้น โรบิน
เกิด: 7 พฤศจิกายน
สูง: 188 ซม.
อาจารย์ที่สอนเวทมนตร์ให้กับช็อกโกล่าและวานิลา มีนิสัยเจ้าชู้และชอบพูดจาแบบจีบปากจีบคอขี้เก๊ก พอมาอยู่ที่โลกมนุษย์ก็เป็นนักร้องวงร็อกที่ทำให้สาวๆ บนโลกมนุษย์หัวใจละลายกันมามากต่อมากแล้ว อดีตเคยเป็นทหารองครักษ์คู่กับกราเช่ (ในมังงะ โรบินรักกับชินนาม่อนและได้ตายไปเพราะต้องสู้กับกลาส)

ปิแอร์ (Pierre)
เกิด: 27 มกราคม
สูง: 170 ซม.
เด็กหนุ่มหน้าตาดี เป็นเจ้าชายพวกโอกูล ที่ถูกลักพาตัวไปตั้งแต่เด็ก และในอดีตปิแอร์และช็อกโกลาเคยพบและสนิทกันมาก่อน ปีแอร์รักช็อกโกล่าโดยไม่รู้ตัว ในใจของปิแอร์มีหัวใจสองดวงของช็อกโกล่า ซ้อนกันอยู่ ซึ่งใจหนึ่งเป็นสีดำและอีกใจหนึ่งเป็นสีชมพู ทำให้ในตอนหลังปิแอร์ทรยศและช่วยวนและตอนจบก็ได้หมั้นกับช็อกโกล่าเพื่อผสานสองเผ่าพันธุ์เป็นหนึ่งเดียว


อูล (Houx) และ โซล (Soul)
เกิด: 6 มีนาคม
สูง: 165 ซม.
พี่น้องฝาแฝดและเป็นเพื่อนสมัยเด็กของช็อกโกล่า รับหน้าเป็นองครักษ์ให้กับช็อกโกล่า อีกทั้งสองคนยังแอบชอบช็อกโกล่าอีกด้วย
กราเช่ (Glacier)
เกิด: 26 กุมภาพันธ์
สูง: 190 ซม.
เป็นทหารองครักษ์ฝีมือดีประจำโลกเวทมนตร์ และเคยทำงานร่วมกับ ร็อกกิ้ง โรบิน มาก่อน




ควีนแคนดี้ (Queen Candy)
เกิด: 8 เมษายน
สูง: 169 ซม.
แม่ของวานิลาและเป็นราชินีประจำโลกเวทมนตร์ มีนิสัยที่อ่อนโยน มองการณ์ไกล ไม่โปรดในการทำสงคราม และมีวิจารณญาณพอตัว

ชินนามอน (ซินนามอน) (Cinnamon)
เกิด: 20 มิถุนายน
สูง: 170 ซม.
แม่ของช็อกโกล่าในอดีตเป็นราชินีแห่งโลกเวทมนตร์ แต่ได้หายตัวไปอย่างลึกลับระหว่างเกิดเรื่องกับโอกูล ความจริงแล้วในการทดสอบว่าที่ราชินีเธอได้รับการคัดเลือก แต่ต้องไปสู้กับกลาสทำให้เธอถูกสาปเป็นแมวสีดำที่อยู่กับปิแอร์ คอยช่วยเหลือช็อกโกล่าอย่างลับๆ
ตำนานนางเงือก
          

ในนิทานก่อนนอนที่คุ้นเคยกันอย่างเรื่องเจ้าหญิงเงือกน้อยของฮานคริสเตียนแอนเดอร์สันนางเงือก คือ สาวน้อยน่ารักที่มีท่อนล่างเป็นปลาแหวกว่ายในท้องทะเล ทว่าในอีกหลายตำนานโดยเฉพาะในแถบเอเชียเรื่องราวของนางเงือกกลับถูกกล่าวขานในรูปแบบที่ดูจะน่าหวาดกลัวกว่าซึ่งเราจะนำมาเล่า
ให้ฟังบางเรื่อง


เริ่มจากตำนานของแถบอินโดจีนซึ่งรวมทั้งไทยเราด้วยนางเงือกคือสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับและน่าหวาดกลัวโดยเงือกในแถบนี้จะปรากฏกายในรูปของหญิงสาวที่มีใบหน้าเล็กเท่างบน้ำอ้อย (เป็นอาหารอย่างหนึ่งทำจากน้ำอ้อยที่แข็งเป็นแผ่นขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือเล็กน้อย) ซึ่งเงือกเหล่านี้จะขึ้นมาอาบแสงจันทร์ในยามค่ำคืนโดยนางเงือกจะมีกระจกที่ทำด้วยทองคำสำหรับส่องดูหน้าของนางและในเวลาที่นางเงือกเหล่านี้ขึ้นมาส่งกระจกอาบแสงจันทร์อยู่นั้นหากมีมนุษย์มาแอบเฝ้าดูและส่งเสียงดังพวกเงือกจะตกใจกระโดดลงน้ำและมักจะทิ้งกระจกเอาไว้ทว่าหากมนุษย์ผู้ใดนำกระจกทองคำของนางเงือกไปเขาผู้นั้นจะถูกนางติดตามล่าและสุดท้ายเงือกจะฉุดมนุษย์ผู้นั้นลงไปสู่ความตายใต้ผืนน้ำ
ตำนานเรื่องนางเงือกเรื่องต่อมาเล่าขานกันในญี่ปุ่นโดยเล่ามาว่าในสมัยโบราณมีชาวประมงผู้หนึ่งอาศัยอยู่กับลูกๆชายหญิงสามคนที่ริมทะเลสาปบิวะส่วนภรรยาของเขานั้นได้สิ้นชีวิตไปนานแล้ววันหนึ่งขณะที่เขาออกไปทอดแหในทะเลสาปเขาจับนางเงือกได้ตนหนึ่งเงือกตนนั้นได้ร้องขอให้เขาปล่อยนางลงน้ำก่อนที่นางจะแห้งตายเพราะขาดน้ำทว่าชายผู้นั้นกลับไม่ไยดีต่อคำขอร้องของเงือกจนทำให้นางเงือกตนนั้นขาดใจตายหลังจากนางเงือกตายแล้วชาวประมงได้แล่เนื้อของนางหมักเกลือไว้เพื่อใช้เป็นเหยื่อปลาทว่าวันหนึ่งขณะที่เขาไม่อยู่บ้านลูกๆทั้งสามซึ่งยังเด็กอยู่ได้มาเจอถังหมักเนื้อเงือกเข้าพวกเด็กๆได้กินเนื้อในถังจนหมดและจากนั้นก็เกิดเกล็ดปลาขึ้นตามตัวอย่างรวดเร็วขณะที่ขาทั้งสองก็กลายสภาพเป็นครีบพวกเด็กๆเจ็บปวดและกระหายน้ำอย่างรุนแรงไม่ผิดกับเงือกที่พ่อของพวกเขาจับมาจนกระทั่งเมื่อชาวประมงผู้เป็นพ่อกลับมาในตอนเย็นก็พบว่าลูกๆทั้งสามได้แห้งตายแล้วชาวประมงเศร้าเสียใจที่ความโง่และความโลภของตนได้ทำให้ลูก ๆ ต้องพบจุดจบจากนั้นด้วยความสำนึกในบาปที่ก่อเขาจึงออกบวชเพื่ออุทิศบุญให้ลูกๆทั้งสามและนางเงือกที่ตายเพราะเขา

เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องเล่าของจีนโดยเล่ากันว่าในสมัยโบราณมีแม่ทัพผู้หนึ่งชื่อซ่งหยูเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ทวนอย่างหาผู้เทียบไม่ได้คืนหนึ่งขณะที่นอนหลับซ่งหยูฝันว่ามีนางเงือกตนหนึ่งมาขอร้องว่าเมื่อเขาออกไปตกปลาในวันรุ่งขึ้นลูกของนางจะว่ายน้ำผ่านเรือไปนางเงือกบอกกับแม่ทัพว่าขอให้เขาอย่าได้ทำร้ายลูกของนาง วันรุ่งขึ้นเมื่อแม่ทัพซ่งไปตกปลาก็ได้พบกับลูกเงือกตนหนึ่งว่ายน้ำผ่านเรือไปทว่าเขากลับลืมคำขอร้องของแม่เงือกในฝันเนื่องจากเกิดความโลภที่จะจับลูกเงือกนั้นซ่งหยูจึงใช้ทวนพุ่งใส่เงือกจนจมหายไปแม่ทัพซ่งสั่งให้คนออกงมหาร่างของลูกเงือกแต่ไม่พบจากนั้นไม่นานเขาก็ลืมเรื่องนี้ไป
วันหนี่งมีน้ำท่วมสูงจนปริ่มริมท่าน้ำหน้าบ้านแม่ทัพซ่งได้พาบุตรชายวัยห้าขวบไปยืนดูกระแสน้ำที่ริมท่าหน้าบ้านขณะที่เขาและลูกกำลังดูสายน้ำที่ไหลผ่านไปอยู่นั้นเองทวนเล่มหนึ่งก็พุ่งมาเสียบร่างเด็กชายล้มลงสิ้นใจต่อหน้าผู้เป็นพ่อทันทีแม่ทัพซ่งทรุดลงพลางคร่ำครวญด้วยความโศกเศร้าเสียใจและเมื่อเขาได้เห็นทวนลึกลับที่สังหารบุตรชายของเขาอย่างชัดเจนแล้วแม่ทัพซ่งก็ถึงกับตกตะลึงเพราะทวนเล่มนั้นก็คือทวนเล่มเดียวกันกับที่ปลิดชีวิตลูกเงือกนั่นเอง